|
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ Cloud TPU v5p เป็น AI Accelerator ภายในศูนย์ข้อมูลของ Google |
โมเดลที่สร้างขึ้นด้วยความรับผิดชอบและความปลอดภัยเป็นหัวใจหลัก
ที่ Google เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา AI อย่างกล้าหาญและมีความรับผิดชอบในทุกสิ่งที่เราทำ โดยยึดหลักการเกี่ยวกับ AI และนโยบายความปลอดภัยที่แข็งแกร่งในผลิตภัณฑ์ของเรา เรากำลังเพิ่มการป้องกันใหม่ๆ เพื่อรองรับความสามารถที่หลากหลายของ Gemini โดยในแต่ละขั้นตอนของการพัฒนา เราจะพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น จากนั้นจะดำเนินการทดสอบและลดความเสี่ยงเหล่านั้น
ณ ปัจจุบัน Gemini มีการประเมินด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากที่สุดในบรรดาโมเดล AI ของ Google รวมถึงการประเมินอคติและความเป็นพิษ (toxicity) เราได้ดำเนินการวิจัยใหม่ๆ ในด้านความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การกระทำผิดทางไซเบอร์ การโน้มน้าวใจ และความเป็นอิสระในตนเอง และใช้เทคนิคการทดสอบแบบ Adversarial Testing ที่ดีที่สุดของทีมวิจัยของ Google เพื่อช่วยระบุปัญหาด้านความปลอดภัยที่สำคัญล่วงหน้าก่อนที่จะทำให้ Gemini ใช้งานได้
เรากำลังทำงานร่วมกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญภายนอกและพาร์ทเนอร์หลายกลุ่มเพื่อทดสอบความสามารถในการรับมือกับความท้าทายของโมเดลของเราในประเด็นต่างๆ เพื่อระบุจุดบอดในแนวทางการประเมินภายในของเรา
เรากำลังใช้เกณฑ์มาตรฐานต่างๆ เช่น Real Toxicity Prompts ที่ประกอบด้วยพรอมต์จำนวน 100,000 รายการที่มีระดับความเป็นพิษที่ดึงมาจากเว็บที่แตกต่างกัน ซึ่งพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญที่ Allen Institute of AI เพื่อวินิจฉัยปัญหาความปลอดภัยของเนื้อหาในระหว่างขั้นตอนการฝึกของ Gemini และเพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปตามนโยบายของเรา เราจะอัปเดตรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินงานในส่วนนี้ให้ทราบในเร็วๆ นี้
สำหรับการจำกัดอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เราได้สร้างตัวแยกประเภทความปลอดภัยโดยเฉพาะเพื่อระบุ ติดป้ายกำกับ และจัดเรียงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงหรือทัศนคติเชิงลบ เมื่อรวมเข้ากับตัวกรองที่ทำงานอย่างละเอียด วิธีการหลายขั้นตอนนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำให้ Gemini ปลอดภัยยิ่งขึ้นและใช้งานได้สำหรับทุกคน นอกจากนี้ เรายังจัดการกับความท้าทายสำหรับโมเดลต่างๆ ที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว เช่น ข้อเท็จจริง การให้เหตุผล การระบุแหล่งที่มา และการหาพยานหลักฐานสนับสนุน
ความรับผิดชอบและความปลอดภัยจะยังคงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญในการพัฒนาและทำให้โมเดลของเราใช้งานได้อยู่เสมอ นี่เป็นความมุ่งมั่นระยะยาวที่จำเป็นต้องร่วมมือกันสร้างขึ้น ดังนั้นเราจึงร่วมมือกับอุตสาหกรรมและระบบนิเวศในวงกว้างขึ้นในการกำหนดแนวทางปฏิบัติแนะนำและกำหนดเกณฑ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยผ่านองค์กรต่างๆ เช่น MLCommons, Frontier Model Forum และ AI Safety Fund และ Secure AI Framework (SAIF) ของเราซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเฉพาะของระบบ AI ทั่วทั้งภาครัฐและเอกชน เราจะยังคงร่วมมือกับนักวิจัย ภาครัฐ และกลุ่มประชาสังคมทั่วโลกในการพัฒนา Gemini ต่อไป
การทำให้ Gemini พร้อมใช้งานทั่วโลก
เรากำลังทยอยนำ Gemini 1.0 มาใช้ในผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มต่างๆ
Gemini Pro ในผลิตภัณฑ์ของ Google
เรากำลังนำ Gemini มาให้ผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกได้ใช้ ผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google
โดยในเบื้องต้น Gemini Pro ใน Bard จะพร้อมให้บริการในภาษาอังกฤษในกว่า 170 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก และเรามีแผนที่จะขยายให้ครอบคลุมรูปแบบต่างๆ รวมถึงรองรับภาษาและให้บริการในประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้
นอกจากนี้เรายังจะเปิดตัว Gemini ใน Pixel โดย Pixel 8 Pro จะเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ออกแบบมาเพื่อใช้งาน Gemini Nano ซึ่งขับเคลื่อนฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น ฟีเจอร์ Summarize ในโปรแกรมอัดเสียงและฟีเจอร์ช่วยตอบใน Gboard โดยจะเริ่มจาก WhatsApp ก่อน และจะมีแอปรับส่งข้อความเพิ่มมากขึ้นในปีหน้า
ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า Gemini จะพร้อมใช้งานในผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ของเรา เช่น Google Search, Google Ads, Chrome และ Duet AI
เรากำลังเริ่มทดลองใช้ Gemini ใน Google Search ซึ่งทำให้ Search Generative Experience (SGE) เร็วขึ้นสำหรับผู้ใช้ โดยช่วยลดเวลาในการตอบสนองในภาษาอังกฤษในสหรัฐอเมริกาลงถึง 40% ควบคู่ไปกับการปรับปรุงคุณภาพ
การสร้างแอปด้วย Gemini
ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมเป็นต้นไป นักพัฒนาแอปและลูกค้าองค์กรจะสามารถเข้าถึง Gemini Pro ผ่านทาง Gemini API ใน Google AI Studio หรือ Google Cloud Vertex AI
Google AI Studio เป็นเครื่องมือบนเว็บที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับนักพัฒนา ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาแอปและลูกค้าองค์กรสร้างต้นแบบและเปิดใช้แอปได้อย่างรวดเร็วด้วยคีย์ API เมื่อถึงเวลาสำหรับแพลตฟอร์ม AI ที่มีการจัดการเต็มรูปแบบ Vertex AI จะช่วยให้ปรับแต่ง Gemini ด้วยการควบคุมข้อมูลเต็มรูปแบบและรับประโยชน์จากฟีเจอร์เพิ่มเติมของ Google Cloud สำหรับการรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว การกำกับดูแลข้อมูล และการปฏิบัติตามข้อกำหนดขององค์กร
นอกจากนี้ นักพัฒนาแอป Android ยังสามารถสร้างแอปด้วย Gemini Nano ซึ่งเป็นโมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการทำงานในอุปกรณ์ ผ่านทาง AICore ซึ่งเป็นความสามารถระบบใหม่ที่พร้อมใช้งานใน Android 14 โดยเริ่มจากอุปกรณ์ Pixel 8 Pro ลงทะเบียนเพื่อดูตัวอย่าง AICore ก่อนใคร
Gemini Ultra จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้
สำหรับ Gemini Ultra ขณะนี้เรากำลังดำเนินการตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในด้านต่างๆ อยู่ รวมถึงการเข้าร่วมการทดสอบแบบ Adversarial Testing ของบุคคลภายนอกที่เชื่อถือได้ และการปรับปรุงโมเดลเพิ่มเติมโดยใช้การปรับแต่งอย่างละเอียดและการสนับสนุนการเรียนรู้ด้วยความคิดเห็นของมนุษย์ (Reinforcement Learning from Human Feedback หรือ RLHF) ก่อนที่จะเผยแพร่ในวงกว้าง
ส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ เราจะเปิดให้ลูกค้า นักพัฒนาแอป พาร์ทเนอร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและความรับผิดชอบบางรายทดลองใช้ Gemini Ultra และให้ข้อเสนอแนะก่อนในเบื้องต้น ก่อนที่จะเปิดให้บริการแก่นักพัฒนาแอปและลูกค้าองค์กรในวงกว้างในต้นปีหน้า
ในต้นปีหน้า เรายังจะเปิดตัว Bard Advanced ซึ่งเป็นประสบการณ์ AI แบบใหม่ที่ล้ำสมัยที่ให้คุณเข้าถึงโมเดลและความสามารถที่ดีที่สุดของเรา โดยจะเริ่มจาก Gemini Ultra ก่อน
ยุคของ Gemini และการขับเคลื่อนนวัตกรรมแห่งอนาคต
นี่เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา AI และเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่สำหรับ Google โดยเราจะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ และพัฒนาขีดความสามารถของโมเดลของเราอย่างมีความรับผิดชอบ
จนถึงขณะนี้ เรามีความก้าวหน้าอย่างมากในการพัฒนา Gemini และเรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อขยายขีดความสามารถสำหรับเวอร์ชันใหม่ๆ ในอนาคต รวมถึงความก้าวหน้าในด้านการวางแผนและหน่วยความจำ และการเพิ่มบริบทสำหรับการประมวลผลข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้การตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น
เรารู้สึกตื่นเต้นกับความเป็นไปได้อันน่าทึ่งของโลกที่ขับเคลื่อนอย่างมีความรับผิดชอบด้วย AI ซึ่งเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคตที่จะช่วยต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ ขยายความรู้ สร้างความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และสร้างการเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานของผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลก