https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgqslh80a7_xb3m9QOFOOLEdSnQNkjt2zC__iLI_6m3_qm_SFcY4xaJh79oo8hGesjkZycQ7JG5RZu2SCWbsZ6gk8qqy96if8IrP42mOulmZavSv0Rqq9lKguLlnNH6yANx_PDTxClrais/s0/Free+listings+hero+image.jpg
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgqslh80a7_xb3m9QOFOOLEdSnQNkjt2zC__iLI_6m3_qm_SFcY4xaJh79oo8hGesjkZycQ7JG5RZu2SCWbsZ6gk8qqy96if8IrP42mOulmZavSv0Rqq9lKguLlnNH6yANx_PDTxClrais/s0/Free+listings+hero+image.jpg

ผู้ค้าปลีกมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับโควิด-19 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยพวกเขาต้องต่อสู้กับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ยากลำบาก ในขณะเดียวกันก็ให้บริการแก่ลูกค้าและชุมชน จัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่จำเป็น และสนับสนุนการจ้างงานด้วย

เนื่องจากบรรดาธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหันมาทำอีคอมเมิร์ซกันมากขึ้น เราจึงมุ่งมั่นให้การสนับสนุนแก่พวกเขาในทุกวิถีทางเท่าที่เราจะทำได้ ซึ่งรวมถึงการให้ผู้ค้าปลีกแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์บนช่องทางออนไลน์ได้ฟรี ซึ่งเราได้ดำเนินการดังกล่าวในอินเดียและอินโดนีเซียมาแล้วตั้งแต่ปี 2562 และตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป เราจะขยายการสนับสนุนเช่นเดียวกันนี้ให้ครอบคลุมประเทศอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ขายในภูมิภาคนี้สามารถเพิ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์ของตนลงในแท็บ Google Shopping ได้ฟรี

สำหรับผู้ค้าปลีก นี่คือการเปิดโอกาสให้ผู้คนนับล้านที่เข้ามาใช้บริการ Google ในแต่ละวันสามารถตอบสนองความต้องการในการช้อปปิ้งของพวกเขา ไม่ว่าจะมีการโฆษณาบน Google หรือไม่ก็ตาม ด้านนักช้อปจะมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์และร้านค้า ซึ่งสามารถค้นพบได้ในแท็บ Google Shopping สำหรับผู้ลงโฆษณานั้นหมายความว่า ตอนนี้แคมเปญโฆษณาแบบชำระเงินสามารถเพิ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงฟรีได้แล้ว

เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงในสหรัฐอเมริกาไปเมื่อต้นปีนี้ ผู้ค้าปลีกที่แสดงผลิตภัณฑ์และโฆษณาแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายมีจำนวนการเช้าชมโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2 เท่า และมีการเยี่ยมชมเพิ่มขึ้น 50% โดยธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางมีการเติบโตมากที่สุด


ตลาดค้าปลีกของเอเชียที่กำลังเปลี่ยนไป

นี่คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวิธีการซื้อและขายสินค้าของผู้คนในเอเชียแปซิฟิก ก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ อีคอมเมิร์ซกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น เศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่าถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2562 และคาดว่าจะเติบโตขึ้นเป็น 3 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2568

โควิด-19 เป็นปัจจัยที่เร่งเทรนด์เหล่านี้ จากการวิเคราะห์ของ Google 53% ของนักช้อปออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า พวกเขาจะซื้อสินค้าทางออนไลน์บ่อยขึ้นหลังจากเกิดโรคระบาด ในขณะที่เกือบ 40% ของผู้ที่ไม่ได้ซื้อสินค้าออนไลน์มาก่อนกล่าวว่า พวกเขาตั้งใจจะซื้อสินค้าทางออนไลน์ต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่า 1 ใน 3 ของนักช้อปออนไลน์ซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่พวกเขาไม่เคยซื้อมาก่อน

เพื่อช่วยให้ผู้ค้าปลีกปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เราจะจัดฝึกอบรมทักษะผ่าน Grow with Google รวมทั้งแบ่งปันงานวิจัยและข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ เราได้เปิดตัว คู่มือการฟื้นตัวธุรกิจค้าปลีก เพื่อช่วยให้ผู้ค้าปลีกจัดการหน้าร้านบนโลกออนไลน์ได้ดีขึ้น และเรากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ขายในการจัดการผลิตภัณฑ์และสินค้าคงคลัง โดยพันธมิตรที่ให้ความร่วมมือกับเราในครั้งนี้ประกอบด้วยพันธมิตรระดับโลก อาทิ Shopify รวมถึงพันธมิตรชั้นนำในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียแปซิฟิก อาทิ Haravan ในเวียดนาม Shopline ในไต้หวันและฮ่องกง LnwShop และ Bentoweb ในประเทศไทย

ในการเดินหน้ารุดแผนงานสำหรับ Google Shopping เราหวังว่าจะได้ต่อยอดโครงการเหล่านี้โดยให้การสนับสนุนเพิ่มเติมและการบรรเทาทุกข์แก่ผู้ค้าปลีกในเอเชียแปซิฟิกในเวลาที่พวกเขาต้องการมากที่สุด

ก้าวต่อไป

ผู้ที่ใช้ Merchant Center และ Shopping ads อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากการเพิ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงฟรี สำหรับผู้ใช้ Merchant Center รายใหม่ เราจะดำเนินการปรับปรุงขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับผู้ค้าปลีกทั่วเอเชียแปซิฟิกอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้นักช้อปค้นพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ตลอดจนมีส่วนช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวจากโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวของอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้

Scott Beaumont

President, Google Asia Pacific