ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะน่าตื่นเต้นไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับการสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพในเอเชียแปซิฟิก กลุ่มผู้ก่อตั้งที่หลากหลาย มากความสามารถ และเปี่ยมด้วยความกระตือรือร้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั่วทั้งภูมิภาค อีกทั้งผู้ประกอบการเหล่านี้ยังมีโอกาสอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนที่จะได้รับการสนับสนุนซึ่งจำเป็นต่อการเติบโตของธุรกิจ โดยมีเม็ดเงินร่วมลงทุนไหลเข้าสู่ภูมิภาคนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
การสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพทุกขนาดเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ Google ในการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล วันนี้ในงาน Google for Startups ที่จัดขึ้นทางออนไลน์ เราได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญจากการร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ก่อตั้งทั่วเอเชียแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นวิธีการที่พวกเขากำหนดเป้าหมายการเติบโตระดับโลก การขับเคลื่อนเทคโนโลยีไปข้างหน้า และการหาแหล่งสนับสนุนเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถแสดงศักยภาพที่มีได้
การสรรสร้างเพื่อคนทั้งโลก
ในเดือนเมษายน 2564 มีธุรกิจสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น (สตาร์ทอัพที่มีมูลค่าธุรกิจมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป) เกือบ 200 รายในเอเชียแปซิฟิก คิดเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐอเมริกา (290) และแซงหน้ายุโรป (69) ธุรกิจสตาร์ทอัพชั้นนำหลายรายในเอเชียสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการจุดประกายโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เช่น Grab และ ‘ซูเปอร์แอป’ (Super App) อื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือการจัดการกับปัญหาในระดับสากล เช่น CogSmart ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งดำเนินงานเพื่อช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมตั้งแต่อายุยังน้อย
ในขณะเดียวกัน ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ก็ทำให้เกิดความต้องการบริการดิจิทัลใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่งธุรกิจสตาร์ทอัพก็สามารถตอบโจทย์นี้ได้ ดังจะเห็นได้จากข้อมูลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เผยให้เห็นว่ามี ‘ผู้บริโภคบนแพลตฟอร์มดิจิทัล’ รายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 60 ล้านคน โดยมีการใช้บริการออนไลน์อย่างน้อยหนึ่งรายการนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่
การสำรวจเทคโนโลยีอุบัติใหม่
เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของประชากรในโลกออนไลน์ในภูมิภาคนี้ ธุรกิจสตาร์ทอัพของเอเชียจึงมุ่งสำรวจความเป็นไปได้จากวิวัฒนาการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆ หลายบริษัทต้องการช่วยแก้ไขปัญหาทางสังคม การเงิน และสิ่งแวดล้อมที่หยั่งรากลึกมานาน โดยมักจะเน้นไปที่ภาคส่วนที่ยังขาดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในระดับที่ทัดเทียมกับอุตสาหกรรมที่มั่นคงกว่าในเศรษฐกิจดิจิทัล
- ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ผู้ก่อตั้งในภูมิภาคนี้ต่างมุ่งมั่นที่จะพัฒนาหลากหลายแอปพลิเคชันที่มากประสิทธิผล Kata.ai ของอินโดนีเซียเป็นผู้นำด้าน AI ที่สนทนาโต้ตอบได้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ขณะที่ BrainSightAI ของอินเดียกำลังสร้างเครื่องมือใหม่เพื่อช่วยให้นักวิจัยและแพทย์เข้าใจกลไกสมองมนุษย์ได้ดีขึ้น
- ระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง (Decentralized Finance หรือ DeFi) เป็นอีกแขนงหนึ่งที่กำลังเติบโต ธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน DeFi ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถระดมทุนได้ถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 6 เท่าของปี 2563 เมื่อทุกคนเริ่มเปลี่ยนแนวคิดทางการเงินและการซื้อขายที่ฉีกออกไปจากเดิม ผู้ประกอบการผู้อยู่เบื้องหลังธุรกิจสตาร์ทอัพอย่าง DA:Ground ของเกาหลีจึงช่วยให้ผู้คนในภูมิภาคนี้สามารถลงทุนและเข้าถึงบริการทางการเงินอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
- เทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) และอีคอมเมิร์ซในเอเชียกำลังเฟื่องฟู ผู้ก่อตั้งหลายรายที่ทำงานในด้าน FinTech ต่างได้รับแรงผลักดันจากเป้าหมายที่นำไปสู่ความครอบคลุมทางการเงินมากขึ้นและสร้างประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซที่ดียิ่งขึ้นด้วย Advance ของฟิลิปปินส์กำลังพยายามที่จะช่วยให้ลูกจ้างชาวฟิลิปปินส์เข้าถึงเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ย 0% ได้ง่ายขึ้นผ่านความร่วมมืออย่างมีความรับผิดชอบกับเหล่านายจ้าง ขณะที่ Shopinks ในสิงคโปร์ก็ช่วยให้ผู้ค้าปลีกสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีขึ้นผ่านแชทบ็อตและอีเมลแบบเจาะจงเป็นรายบุคคล
- สถานการณ์โรคระบาดทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนอย่างมากในธุรกิจสตาร์ทอัพเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านสุขภาพ เช่น Zyla ของอินเดีย ซึ่งให้บริการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และ Caredoc ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสัญชาติเกาหลีที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสถานดูแลผู้สูงอายุ
- ผู้ก่อตั้งรายอื่นๆ หันมาให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น เนื่องจากเอเชียมีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตด้านสภาพภูมิอากาศ ธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีส่วนร่วมรณรงค์ในเรื่องนี้ ได้แก่ Duitin ของอินโดนีเซีย ซึ่งบริหารดูแลจุดจัดการของเสีย 2,000 แห่งทั่วประเทศอินโดนีเซีย และ Lockists ของไต้หวัน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการร่วมเดินทางที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศได้ด้วยการลดปริมาณการใช้รถ
สตาร์ทอัพจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้ให้คำปรึกษาของ Google ในโครงการ Google for Startups Accelelerator: Southeast Asia ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก |
ไมค์ คิม
หัวหน้าโครงการ Google for Startups ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
Asian startups are shaping global trends
- In artificial intelligence, the region’s founders are working on a wide range of powerful applications. Indonesia’s Kata.ai is a leader in conversational AI, helping businesses provide better experiences for their customers, while India’s BrainSightAI is building new tools to help researchers and clinicians better understand the human brain.
- Decentralized finance (DeFi) is another growth area. Southeast Asian DeFi startups raised $1 billion in equity funding in 2021, six times the amount in 2020. With an eye on the shift away from traditional finance and trading, entrepreneurs behind startups like Korea’s DA:Ground are making it easier for people in the region to invest and access other financial services.
- Financial technology (fintech) and e-commerce in Asia is booming. Many founders working in the fintech sector are driven by the goal of making finance more inclusive and e-commerce an even better experience. The Philippines’ Advance is making it easier for Filipino workers to access zero-interest credit through responsible partnerships with their employers. In Singapore, Shopinks helps retailers better engage their customers through chatbots and personalized emails.
- In the wake of the pandemic, there is great momentum behind health technology startups such as India’s Zyla, which provides 24/7, personalized care through a mobile app, and Caredoc, a Korean platform that shares information on elderly care facilities.
- Other founders are increasingly focused on sustainability, given Asia’s vulnerability to the climate crisis. Startups contributing to the response include Indonesia’s Duitin, which is managing 2,000 waste management sites across Indonesia, and Taiwan’s Lockists, a shared transportation platform that helps improve air quality by reducing car use.
Laying foundations for growth
While there’s ample funding available for Asian startups, we know that the region’s founders need a much wider range of support beyond investment. Common challenges faced by APAC startups include keeping up with regulations (which differ at country, state and provincial levels), getting access to infrastructure or technologies, and increasing the current low rate of women’s entrepreneurship.
Our aim is to work with everyone in the startup community — including founders, venture capital firms and governments — to help move the entire ecosystem forward. This year, we’re running Google for Startups Accelerator programs in India, Korea, Japan and Southeast Asia, providing support and mentorship for growth-stage startups. Our new Startup Academy program — launched in Indonesia — will coach early-stage startups. We’re working to help a more diverse range of startups with the Women Founders Academy. And we continue to build close links with private and public sector partners who share our commitment, through initiatives like Project Hatcher in Taiwan or our Startups & FinTechs programme with Cyberport in Hong Kong.
Southeast Asian startups with Google mentors during our inaugural regional accelerator program.
Mike Kim
Head of Google for Startups, Asia-Pacific
เล่นบาคาร่าฟรี
ตอบลบบาคาร่าเว็บตรง รวมเกมคาสิโน ครบวงจรมากที่สุด พร้อมให้บริการตลอด 24 ชม.
ตอบลบ