ปีนี้ YouTube จะมีอายุครบ 20 ปีแล้ว ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา YouTube ได้พลิกโฉมวัฒนธรรมผ่านวิดีโอและสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เฟื่องฟู ปัจจุบันครีเอเตอร์ได้เปลี่ยนจากการถ่ายทำวิดีโอที่มีภาพไม่ละเอียดในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปมาเป็นการสร้างสตูดิโอและการผลิตรายการทอล์กโชว์ที่ได้รับความนิยม รวมไปถึงภาพยนตร์เรื่องยาว นอกจากนี้ ผู้คนก็ไม่ได้ดู YouTube แค่ในคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์อีกต่อไปแล้ว ทีวีได้รับความนิยมมากกว่าอุปกรณ์เคลื่อนที่ และในตอนนี้ก็กลายเป็นอุปกรณ์หลักสำหรับการดู YouTube ในสหรัฐอเมริกา (อิงตามเวลาในการรับชม)* โดยรายงานของ Nielsen ระบุว่า YouTube มีเวลาในการรับชมสตรีมมิงเป็นอันดับที่ 1 ในสหรัฐอเมริกานานถึง 2 ปี** และตอนนี้ก็ยังมี AI เข้ามาอีก ซึ่งแม้จะยังอยู่ในยุคแรกเริ่ม แต่ AI ก็ได้สร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับวิธีที่ผู้คนสร้างและรับชมคอนเทนต์ใน YouTube
ถือเป็นช่วงเวลา 20 ปีที่น่าตื่นเต้นจริงๆ และเช่นเคยเหมือนทุกๆ ปี ต่อไปนี้คือการเดิมพันครั้งใหญ่สำหรับ YouTube ในปี 2025
ข้อแรก: YouTube จะยังคงเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม
ภารกิจของเราที่มีมาอย่างยาวนานกว่าทศวรรษคือให้ทุกคนมีโอกาสแสดงแนวคิดและความเป็นตัวของตัวเองให้โลกรับรู้ ซึ่งหมายความว่าเราให้บริการแพลตฟอร์มที่มีเสรีภาพในการพูดและการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ไม่เหมือนกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ระบบนิเวศที่มีชีวิตชีวานี้ช่วยกระตุ้นให้เกิดกลุ่มแฟนคลับและเทรนด์ทางวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นมิวสิกวิดีโอ Shorts ที่กำลังเป็นที่นิยม คอนเทนต์แบบเป็นตอนๆ และ ไลฟ์สดที่มีความยาวเป็นชั่วโมง
เป็นที่แน่ชัดว่า YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่ชาวอเมริกันนิยมเข้ามารับชมคอนเทนต์เกี่ยวกับการเลือกตั้งในช่วงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาปี 2024 จากแหล่งต่างๆ มากมาย เช่น การสัมภาษณ์ประธานาธิบดี Trump ของ Joe Rogan ซึ่งมียอดดูถึง 55 ล้านครั้ง (และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) และคอนเทนต์ตลกขบขันสั้นๆ จากรายการ Saturday Night Live ในวันเลือกตั้งเพียงวันเดียว มีผู้ชมกว่า 45 ล้านคนในสหรัฐอเมริการับชมคอนเทนต์เกี่ยวกับการเลือกตั้งใน YouTube บางคนก็เรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า “การเลือกตั้งใน YouTube” ซึ่งทำให้คิดถึงเหตุการณ์ที่คล้ายกันในปี 2008 นั่นก็คือ “การอภิปรายใน YouTube” ตั้งแต่การเลือกตั้ง โอลิมปิก เทศกาล Coachella ซูเปอร์โบวล์ ไปจนถึงการแข่งขันคริกเกตชิงแชมป์โลก ต่างก็เป็นโมเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกที่นำเสนอผ่าน YouTube
พอดแคสต์ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบคอนเทนต์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดและขับเคลื่อนวัฒนธรรม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมบน YouTube ตอนนี้ YouTube เป็นบริการที่มีคนใช้ฟังพอดแคสต์บ่อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยเราได้ลงทุนกับการพัฒนาประสบการณ์การฟังพอดแคสต์มานานแล้ว และครีเอเตอร์ก็พบว่าวิดีโอทำให้คอนเทนต์รูปแบบนี้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น ในปีนี้ เราจะเปิดตัวเครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนครีเอเตอร์พอดแคสต์ เพิ่มการสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์ และทำให้ผู้ชมค้นพบพอดแคสต์ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ YouTube ยังเป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอีกด้วย เพราะคอนเทนต์นั้นไม่มีขอบเขต ในปี 2024 เวลาในการรับชมมากกว่า 95% ของครีเอเตอร์สาวชาวฝรั่งเศสอย่าง Sarah Lezito มาจากผู้ชมที่อยู่ในประเทศอื่นๆ และ The Amazing Digital Circus ที่เป็นซีรีส์แอนิเมชันของช่องจากออสเตรเลียอย่าง GLITCH ก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยปรากฏในรายชื่อคอนเทนต์ส่งท้ายปีของ YouTube ใน 8 ประเทศ
YouTube ไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มธรรมดา แต่ยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม โดยเรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมชุมชนที่มีชีวิตชีวาซึ่งทุกคนสามารถแสดงแนวคิดได้
ข้อที่ 2: ครีเอเตอร์ YouTube จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการก้าวสู่ฮอลลีวูด
ทุกอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตจำเป็นต้องมีวัฒนธรรมสตาร์ทอัพที่แข็งแรง ครีเอเตอร์จะเป็นผู้นำแนวคิดด้านสตาร์ทอัพสู่วงการฮอลลีวูด โดยอาศัยการผลิตรูปแบบใหม่ การสร้างสตูดิโอที่จะยกระดับคุณภาพการผลิต และการสำรวจช่องทางใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ ครีเอเตอร์กำลังสร้างพื้นที่ใหม่ๆ สำหรับวงการบันเทิงและธุรกิจที่อยู่เบื้องหลัง
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมได้เข้าร่วมงานเปิดสตูดิโอของ Alan Chikin Chow ที่มีขนาด 10,000 ตารางฟุตในเบอร์แบงก์ โดยสตูดิโอแห่งนี้เป็นพื้นที่สวยสะดุดตาสีสันสดใสที่เต็มไปด้วยความสนุก ทั้งยังมาพร้อมอุปกรณ์ทันสมัยที่ช่วยให้สามารถผลิตสื่อบันเทิงอันแสนยอดเยี่ยมที่มีผู้รับชมหลายล้านคนทั่วโลก ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในฮอลลีวูด Kinigra Deon ก็กำลังสร้างสตูดิโอในเบอร์มิงแฮม รัฐแอละแบมา นอกจากนี้ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ครีเอเตอร์ที่อยู่เบื้องหลังช่องต่างๆ อย่าง Mia Plays และ Kouman ก็ได้เปิดสตูดิโอของตัวเองในนอร์ทแวนคูเวอร์
เราก็มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของเหล่าครีเอเตอร์ด้วยเครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจและชุมชนของพวกเขา เราจะยังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนการเติบโตของพวกเขาต่อไปผ่านช่องทางรายได้แบบดั้งเดิมอย่างโฆษณาและ YouTube Premium พร้อมทั้งแนะนำวิธีใหม่ๆ สำหรับครีเอเตอร์ในการร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเกิดขึ้นได้จริง
เช่นเดียวกับกับสตาร์ทอัพทุกแห่ง ครีเอเตอร์มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการหาแนวทางใหม่ๆ ในการสร้างธุรกิจ และเราจะเพิ่มวิธีใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ให้แก่ครีเอเตอร์ ในปีที่ผ่านมา ช่องมากกว่า 50% ที่สร้างรายได้อย่างน้อย 5 หลัก (USD)*** บน YouTube ได้รับรายได้จากแหล่งอื่นๆ นอกเหนือจากโฆษณาและ YouTube Premium นอกจากนี้ สินค้าแนะนำก็กำลังกลายเป็นแหล่งรายได้หลักสำหรับครีเอเตอร์จำนวนมาก เช่น Bora Claire ที่ได้แชร์กับเราว่าเธอสร้างรายได้หลายแสนดอลลาร์ด้วยการขายสินค้าในวิดีโอเดียวที่เธอรีวิวเสื้อคาร์ดิแกนผ้าแคชเมียร์ ในปีที่แล้ว เราพบว่ามีการเป็นสมาชิกของช่องเพิ่มขึ้นมากกว่า 40%****
เรายังเปิดตัวการโต้ตอบระดับใหม่ในแพลตฟอร์มอีกด้วย ซึ่งช่วยให้แฟนๆ มีวิธีมากขึ้นในการสนับสนุนและมีส่วนร่วมกับครีเอเตอร์และชุมชนที่ตัวเองรัก เราเพิ่งเปิดตัวชุมชน (Communities) สำหรับครีเอเตอร์อีกหลายพันคน และเราจะขยายการให้บริการมากยิ่งขึ้นในปีนี้ นอกจากนี้ เรายังจะเปิดตัวฟีเจอร์ไฮป์ (Hype) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้สนับสนุนครีเอเตอร์หน้าใหม่ ในตลาดอื่นๆ เพิ่มเติมทั่วโลกด้วย
ข้อที่ 3: YouTube เปรียบเสมือนทีวีแบบใหม่
ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าการดูทีวีคือการดู YouTube ผู้ชมดูคอนเทนต์ YouTube บนทีวีในแต่ละวันกว่า 1 พันล้านชั่วโมงโดยเฉลี่ย และตอนนี้ทีวีก็ได้กลายเป็นอุปกรณ์หลักในการดู YouTube ในสหรัฐอเมริกา***** แต่ทีวีรูปแบบ “ใหม่” นี้ไม่เหมือนทีวีแบบ “เก่า” โดยทีวีแบบใหม่จะเป็นแบบอินเทอร์แอกทีฟและมีคอนเทนต์ต่างๆ เช่น Shorts (ใช่ครับ ผู้คนดู Shorts บนทีวี) พอดแคสต์ และไลฟ์สด รวมไปถึงกีฬา ซิทคอม และทอล์กโชว์ที่ผู้คนชื่นชอบกันอยู่แล้ว
เนื่องจากครีเอเตอร์จำนวนมากขึ้นผลิตคอนเทนต์สำหรับหน้าจอขนาดใหญ่ เราจึงจะปรับปรุงให้ YouTube เหมาะกับทีวีมากที่สุด เช่น ประสบการณ์การรับชมบนหน้าจอที่ 2 ที่ให้คุณทำสิ่งต่างๆ เช่น แสดงความคิดเห็นหรือเลือกซื้อสินค้าจากวิดีโอผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ นอกจากนี้ เรายังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “Watch With” ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถแสดงความคิดเห็นแบบสด รวมถึงรีแอ็กต่อเกมและกิจกรรมต่างๆ แบบเรียลไทม์ เราเริ่มทดสอบฟีเจอร์นี้เมื่อปีที่แล้วกับ NFL และจะทดสอบกับกีฬาอื่นๆ และคอนเทนต์ประเภทต่างๆ ในปีนี้
นอกจากนี้ การเติบโตของ YouTube บนทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็กำลังดึงดูดผู้ลงโฆษณารายใหม่ๆ ด้วย และเรายังคงเดินหน้าเปิดตัวฟอร์แมตใหม่ๆ ที่เหมาะสำหรับหน้าจอขนาดใหญ่โดยเฉพาะ เช่น คิวอาร์โค้ดและโฆษณาช่วงวิดีโอหยุดเล่น บริการที่ต้องสมัครใช้งานของเราพบช่องทางในการสร้างกระแสมากมาย โดย YouTube TV มีสมาชิกมากกว่า 8 ล้านคน นอกจากนี้ YouTube Music และ Premium ก็มีสมาชิกมากกว่า 100 ล้านคน (รวมผู้ที่กำลังทดลองใช้) เราจะปรับปรุงฟีเจอร์ของ YouTube TV ที่แฟนๆ ชื่นชอบอย่างต่อเนื่อง เช่น จังหวะการเล่นที่สำคัญและการดูแบบหลายมุมมอง รวมถึงนำเสนอสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ให้แก่สมาชิก YouTube Premium
ฟีเจอร์สุดล้ำ คอนเทนต์ที่หลากหลาย และบริการที่ต้องสมัครใช้งานซึ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ช่วยให้เรากำหนดรูปแบบประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ผ่านทีวีสำหรับคนรุ่นใหม่ได้
ข้อที่ 4: AI จะทำให้การสร้างและปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน YouTube ของทุกคนง่ายยิ่งขึ้น
AI เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานของเรามาเป็นเวลานาน ตั้งแต่การแนะนำวิดีโอ การสร้างคำบรรยายแทนเสียง ไปจนถึงการช่วยเราค้นหาและนำคอนเทนต์ที่เป็นอันตรายออก เราจะมุ่งสู่อนาคตด้วยการลงทุนกับเครื่องมือ AI ที่ส่งเสริมครีเอเตอร์และศิลปินตลอดเส้นทางการสร้างสรรค์ เมื่อปีที่แล้ว เราได้เปิดตัวดรีมสกรีนและดรีมแทร็ก ซึ่งสร้างภาพพื้นหลัง วิดีโอพื้นหลัง และซาวด์แทร็กเพลงบรรเลงสำหรับ Shorts เราจะลงทุนกับฟีเจอร์เหล่านี้ต่อไป รวมถึงผสานรวม Veo 2 กับดรีมสกรีนในเร็วๆ นี้
ครีเอเตอร์ไม่เพียงแค่ประทับใจโมเดล Generative AI แต่ยังบอกเราว่าตื่นเต้นสุดๆ เกี่ยวกับการที่ AI สามารถช่วยพวกเขาในขั้นตอนหลักของการผลิตด้วย ด้วยเหตุนี้ เราจึงลงทุนกับเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยในงานสร้างสรรค์ของครีเอเตอร์ในทุกๆ วัน เช่น คิดหาไอเดียใหม่ๆ สำหรับวิดีโอ ชื่อ หรือภาพปก
เรายังใช้ AI เพื่อช่วยครีเอเตอร์ค้นหาผู้ชมใหม่ๆ ด้วย สำหรับวิดีโอที่มีเสียงพากย์ พบว่าเวลาในการรับชมกว่า 40% มาจากผู้ชมที่เลือกฟังเสียงพากย์ในภาษาอื่น เมื่อปีที่แล้ว เราได้เปิดตัวการพากย์เสียงอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์แปลวิดีโอของพวกเขาให้เป็นภาษาต่างๆ ด้วยการแตะปุ่มเพียงปุ่มเดียว ในเร็วๆ นี้ เราจะเปิดให้ครีเอเตอร์ทุกคนในโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube ใช้การพากย์เสียงอัตโนมัติ เราจะดำเนินการปรับปรุงฟีเจอร์นี้ต่อไปและขยายการให้บริการในภาษาอื่นๆ ตลอดทั้งปี
นอกเหนือจากความพยายามด้าน AI ทั้งหมด เรายังมุ่งเน้นไปที่การสร้างข้อกำหนดการใช้งานที่เหมาะสมเพื่อปกป้องผลงานสร้างสรรค์บน YouTube ซึ่งหมายถึงการพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อช่วยให้แต่ละคนสามารถตรวจหาและควบคุมวิธีใช้งาน AI ในการนำเสนอคอนเทนต์ของตนเองบน YouTube การนำร่องกับพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์จะช่วยให้บุคคลที่มีอิทธิพลต่อโลกมากที่สุดบางส่วนมีสิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยีในระยะเริ่มต้นนี้ในไม่ช้า และจะมีการให้ความคิดเห็นที่สำคัญเพื่อช่วยเราสร้างระบบตรวจจับและปรับแต่งการควบคุม
นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการปกป้องผู้ใช้อายุน้อยด้วย ด้วยเหตุนี้เราจึงสร้าง YouTube Kids ขึ้นมาและเปิดตัวบัญชีที่มีการควบคุมดูแล รวมถึงลงทุนกับประสบการณ์การเรียนรู้และการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงวิธีที่วิดีโอแสดงในเครื่องมือทางการศึกษา การทำให้การดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ ในวิดีโอง่ายขึ้น ตลอดจนการเปิดตัวฟีเจอร์ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างหลักสูตรได้ ในปี 2025 นี้ เราจะใช้แมชชีนเลิร์นนิงมาช่วยประเมินอายุของผู้ใช้เพื่อจำแนกระหว่างผู้ชมอายุน้อยกับผู้ชมที่เป็นผู้ใหญ่ เพื่อช่วยมอบการปกป้องและประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะสมกับวัยมากที่สุด
เราจะใช้ศักยภาพของ AI ต่อไปอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน YouTube สำหรับทุกคน
มุ่งหน้าสู่ 20 ปีถัดไป
เป็นเรื่องน่าทึ่งที่ YouTube ได้ช่วยให้ผู้คนสร้างสรรค์ผลงาน เรียนรู้ เชื่อมต่อถึงกัน และอีกมากมายเป็นเวลาถึง 2 ทศวรรษแล้ว ในขณะที่เดินหน้าเข้าสู่บทต่อไป เราก็มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมศักยภาพของครีเอเตอร์ สนับสนุนชุมชน รวมถึงปรับปรุงประสบการณ์การรับชม รับฟัง และการเชื่อมโยงกันของผู้คนทั่วโลกด้วย
ขอขอบคุณชุมชนครีเอเตอร์ ศิลปิน ผู้ชม ผู้ลงโฆษณา และพาร์ทเนอร์ที่แสนยอดเยี่ยมในการทำให้ YouTube เป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ เราตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมสร้างสรรค์ไปกับคุณตลอดช่วง 20 ปีข้างหน้า
Neal Mohan
CEO ของ YouTube
*ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2024 จากบริการทั้งหมดของ YouTube
**The Gauge Report ของ Nielsen, ก.พ. 2023 - ม.ค. 2025
***ช่องที่อยู่ในโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube
****ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2024
*****อิงตามเวลาในการรับชมในทุกบริการของ YouTube ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2024
YouTube’s focus for 2025 seems to be on innovation and creator growth, which could bring exciting opportunities for digital businesses. As the platform evolves, content creators and brands will need high-quality visuals and branding to stand out. This is where Digitizing Services USA can play a key role, helping creators with custom embroidery designs for merch, logos, and promotional products. With more emphasis on AI and monetization, having strong branding will be essential. It’s great to see YouTube investing in the future, and businesses that adapt to these changes will have a competitive edge in the digital landscape.
ตอบลบเว็บรวมความบันเทิง เว็บพนันออนไลน์ จัดเต็มทุกความสนุก
ตอบลบ