การอัปเดตความคืบหน้าของการพัฒนา Privacy Sandbox

วันนี้ เราจะมาอัปเดตความคืบหน้าล่าสุดของโครงการพัฒนา Privacy Sandbox รวมถึงระยะเวลาของแผนการสิ้นสุดการสนับสนุนคุกกี้ของบุคคลที่สามใน Chrome แม้ว่าโครงการนี้จะมีความคืบหน้าไปอย่างมาก แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมาย

โครงการพัฒนา Privacy Sandbox มีเป้าหมายเพื่อสร้างเทคโนโลยีเว็บที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บนโลกออนไลน์ และมอบเครื่องมือสำหรับบริษัทและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในการสร้างธุรกิจดิจิทัลที่เฟื่องฟูเพื่อให้อินเทอร์เน็ตเปิดกว้างและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เพื่อทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จริง ชุมชนออนไลน์จำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อพัฒนาชุดมาตรฐานแบบเปิดเพื่อปรับปรุงความเป็นส่วนตัวบนเว็บโดยพื้นฐานให้มีความโปร่งใสมากขึ้นและทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมวิธีที่ข้อมูลของตนถูกนำไปใช้ได้ดีขึ้น

ในการทำเช่นนี้ เราจำเป็นต้องดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งจะทำให้มีเวลาเพียงพอสำหรับการอภิปรายโดยสาธารณะเกี่ยวกับโซลูชันที่เหมาะสม การมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องกับหน่วยงานกำกับดูแล และสำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาและอุตสาหกรรมโฆษณาในการย้ายบริการ การดำเนินการนี้มีความสำคัญต่อการหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรูปแบบธุรกิจของผู้เผยแพร่เนื้อหาบนเว็บไซต์จำนวนมากที่สนับสนุนเนื้อหาที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี และด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่รักษาความเป็นส่วนตัว เราในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้สามารถช่วยทำให้แน่ใจว่าคุกกี้จะไม่ถูกแทนที่ด้วยการติดตามผู้ใช้ในรูปแบบอื่นๆ และไม่สนับสนุนให้มีการใช้แนวทางแอบแฝง เช่น การสแกนลายนิ้วมือ เพิ่มขึ้น

เราวางแผนที่จะทำงานร่วมกับชุมชนออนไลน์ต่อไปเพื่อสร้างแนวทางที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นในด้านที่สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นการวัดผลโฆษณา การแสดงโฆษณา/เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงการตรวจจับการฉ้อโกง ปัจจุบัน Chrome และเว็บเบราว์เซอร์อื่นๆ ได้จัดทำข้อเสนอต่างๆ มากกว่า 30 รายการ และมีข้อเสนอ 4 รายการในช่วงทดลองใช้เริ่มต้น โดยเฉพาะสำหรับ Chrome เป้าหมายของเราคือการทำให้เทคโนโลยีหลักใช้งานได้ในช่วงปลายปี 2565 เพื่อให้ชุมชนนักพัฒนาซอฟต์แวร์เริ่มนำไปใช้ ภายใต้การมีส่วนร่วมของเรากับหน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันและการตลาดของสหราชอาณาจักร (Competition and Markets Authority หรือ CMA) และตามคำมั่นสัญญาที่เราได้ให้ไว้ Chrome จะยุติการสนับสนุนการใช้คุกกี้ของบุคคลที่สามในระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่กลางปี 2566 และสิ้นสุดในช่วงปลายปี 2566

ทั้งนี้ ข้อเสนอแต่ละข้อต้องผ่านกระบวนการพัฒนาสาธารณะแบบหลายขั้นตอนที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงการอภิปรายในวงกว้างและช่วงเวลาของการทดสอบ ซึ่งสอดคล้องกับวิธีการพัฒนา API แบบเปิดและเทคโนโลยีเว็บอื่นๆ:

• การอภิปราย: จะมีการอภิปรายเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ และต้นแบบของเทคโนโลยีเหล่านั้นในฟอรัมต่างๆ เช่น กลุ่ม GitHub หรือกลุ่ม W3C เป็นต้น
• การทดสอบ: เทคโนโลยีต่างๆ จะได้รับการทดสอบอย่างเข้มงวดใน Chrome ผ่านช่วงทดลองใช้เริ่มต้นหลายครั้ง ซึ่งจะทำให้เกิดความโปร่งใสและมีการแสดงความคิดเห็นตลอดทั้งกระบวนการ ตัวอย่างเช่น เราได้รับความคิดเห็นจำนวนมากจากชุมชนออนไลน์ระหว่างการทดลองใช้เริ่มต้นของ FLoC เวอร์ชันแรก เราวางแผนที่จะสรุปการทดลองใช้เริ่มต้นนี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าและจะทำการรวบรวมข้อมูลเข้าไว้ด้วยกันก่อนที่จะดำเนินการทดสอบในระบบนิเวศต่อไป
• พร้อมสำหรับการนำไปใช้: เมื่อกระบวนการพัฒนาเสร็จสิ้น เทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จก็พร้อมที่จะนำไปใช้ในวงกว้าง โดยจะเปิดตัวใน Chrome และพร้อมสำหรับการใช้งานในวงกว้างทั่วทั้งเว็บ

หลังเสร็จสิ้นกระบวนการพัฒนาสาธารณะ และภายใต้การมีส่วนร่วมของเรากับ CMA แผนการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไปสำหรับ Chrome คือการสิ้นสุดการสนับสนุนคุกกี้ของบุคคลที่สาม ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง: 

• ช่วงที่ 1 (เริ่มในช่วงปลายปี 2565): เมื่อการทดสอบเสร็จสิ้นและเปิดตัว API ใน Chrome เราจะประกาศเริ่มการสิ้นสุดการสนับสนุนคุกกี้ของบุคคลที่สามช่วงที่ 1 โดยในช่วงที่ 1 นี้ ผู้เผยแพร่โฆษณาและอุตสาหกรรมโฆษณาจะมีเวลาในการย้ายบริการของตน เราคาดว่าขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 9 เดือน และเราจะตรวจสอบการนำไปใช้และความคิดเห็นจากผู้ใช้อย่างรอบคอบก่อนที่จะดำเนินการต่อในช่วงที่ 2
• ช่วงที่ 2 (เริ่มในช่วงกลางปี 2566): Chrome จะสิ้นสุดการสนับสนุนคุกกี้ของบุคคลที่สามในระยะเวลา 3 เดือน โดยจะสิ้นสุดในช่วงปลายปี 2566

ในเร็วๆ นี้เราจะประกาศกำหนดการโดยละเอียดเพิ่มเติมบนเว็บไซต์ privacysandbox.com ซึ่งจะมีการอัปเดตเป็นประจำเพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น และทำให้แน่ใจว่านักพัฒนาซอฟต์แวร์และผู้เผยแพร่โฆษณาสามารถวางแผนการทดสอบและกำหนดการย้ายข้อมูลได้

นอกจากความคืบหน้าในการพัฒนาทางเลือกอื่นสำหรับคุกกี้ของบุคคลที่สามแล้ว เรายังคงเดินหน้าดำเนินการตามเป้าหมายหลักอีกประการหนึ่งของ Privacy Sandbox ในการต่อสู้กับการติดตามที่ใช้แนวทางแอบแฝง เช่น การสแกนลายนิ้วมือบนอุปกรณ์ ตัวอย่างเช่น เมื่อเดือนที่แล้ว เราได้ประกาศการอัปเดตเกี่ยวกับแผนของเราที่จะลดการใช้ User-Agent String ซึ่งเป็นโครงการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดโอกาสของการใช้ข้อมูลในส่วนนี้เพื่อขโมยลายนิ้วมือและติดตามผู้ใช้บนอินเทอร์เน็ต

เราเชื่อว่าโซลูชัน Privacy Sandbox จะให้การปกป้องความเป็นส่วนตัวที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน เมื่อระบบนิเวศสามารถสนับสนุนธุรกิจต่างๆ ได้โดยที่ไม่ต้องติดตามผู้ใช้บนอินเทอร์เน็ต เราก็สามารถเข้าถึงเนื้อหาฟรีต่อไปได้ และเนื่องจากความสำคัญของภารกิจนี้ เราจึงต้องใช้เวลาในการประเมินเทคโนโลยีใหม่ๆ รวบรวมความคิดเห็นและดำเนินการซ้ำๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีเหล่านั้นบรรลุเป้าหมายทั้งด้านความเป็นส่วนตัวและประสิทธิภาพ และให้เวลานักพัฒนาซอฟต์แวร์ทุกคนในการปฏิบัติตามแนวทางความเป็นส่วนตัวที่ดีที่สุด

Vinay Goel

Privacy Engineering Director, Chrome

An updated timeline for Privacy Sandbox milestones

Today, we’re sharing the latest on the Privacy Sandbox initiative including a timeline for Chrome’s plan to phase out support for third-party cookies. While there’s considerable progress with this initiative, it's become clear that more time is needed across the ecosystem to get this right.

The Privacy Sandbox initiative aims to create web technologies that both protect people’s privacy online and give companies and developers the tools to build thriving digital businesses to keep the web open and accessible to everyone, now, and for the future. To make this happen, we believe the web community needs to come together to develop a set of open standards to fundamentally enhance privacy on the web, giving people more transparency and greater control over how their data is used. 

In order to do this, we need to move at a responsible pace. This will allow sufficient time for public discussion on the right solutions, continued engagement with regulators, and for publishers and the advertising industry to migrate their services. This is important to avoid jeopardizing the business models of many web publishers which support freely available content. And by providing privacy-preserving technology, we, as an industry, can help ensure that cookies are not replaced with alternative forms of individual tracking, and discourage the rise of covert approaches like fingerprinting.

We plan to continue to work with the web community to create more private approaches to key areas, including ad measurement, delivering relevant ads and content, and fraud detection. Today, Chrome and others have offered more than 30 proposals, and four of those proposals are available in origin trials. For Chrome, specifically, our goal is to have the key technologies deployed by late 2022 for the developer community to start adopting them. Subject to our engagement with the United Kingdom’s Competition and Markets Authority (CMA) and in line with the commitments we have offered, Chrome could then phase out third-party cookies over a three month period, starting in mid-2023 and ending in late 2023.

Each proposal goes through a rigorous, multiphased public development process, including extensive discussion and testing periods. This is consistent with how other open APIs and web technologies get developed:

• Discussion: The technologies and their prototypes are discussed in forums like GitHub or W3C groups.
• Testing: The technologies are rigorously tested in Chrome through potentially numerous origin trials, allowing for transparency and feedback throughout. For example, we received substantial feedback from the web community during the origin trial for the first version of FLoC. We plan to conclude this origin trial in the coming weeks and incorporate input, before advancing to further ecosystem testing.
• Ready for adoption: Once the development process is complete, the successful technologies are ready to be used at scale. They will be launched in Chrome and ready for scaled use across the web.

After this public development process, and subject to our engagement with the CMA, our plan for Chrome is to phase out support for third party cookies in two stages:

• Stage 1 (Starting late-2022): Once testing is complete and APIs are launched in Chrome, we will announce the start of stage 1. During stage 1, publishers and the advertising industry will have time to migrate their services. We expect this stage to last for nine months, and we will monitor adoption and feedback carefully before moving to stage 2.
• Stage 2 (Starting mid-2023): Chrome will phase out support for third party cookies over a three month period finishing in late 2023.

Soon we will provide a more detailed schedule on privacysandbox.com, where it will be updated regularly to provide greater clarity and ensure that developers and publishers can plan their testing and migration schedules.

Along with progress on developing alternatives to third-party cookies, we continue to advance another key Privacy Sandbox goal to combat covert tracking like device fingerprinting. For instance, last month we published an update on our plans for User Agent string reduction, a project which aims to reduce the possibility of using this data to fingerprint and track users across the web.

We believe that the Privacy Sandbox will provide the best privacy protections for everyone. By ensuring that the ecosystem can support their businesses without tracking individuals across the web, we can all ensure that free access to content continues. And because of the importance of this mission, we must take time to evaluate the new technologies, gather feedback and iterate to ensure they meet our goals for both privacy and performance, and give all developers time to follow the best path for privacy.

Vinay Goel

Privacy Engineering Director, Chrome